ชาวโคราช รวมพลัง ก้าวสู่ชีวิตปกติใหม่ สู้ภัยโควิด-19

ชาวโคราช รวมพลัง ก้าวสู่ชีวิตปกติใหม่ สู้ภัยโควิด-19

ชาวโคราช รวมพลัง ก้าวสู่ชีวิตปกติใหม่ สู้ภัยโควิด-19

เครือข่ายภาคีสมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา มีฉันทมติต่อข้อเสนอเชิงนโยบายระดับจังหวัด 3 ประเด็น เสนอเป็นแนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชน และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ หลังวิกฤติโควิด-19 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมามอบข้อเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ 32 อำเภอทั่วจังหวัดไปพิจารณาใช้ขับเคลื่อนงานในพื้นที่ต่อไป

   สวัสดีครับ ชาวชุมชนคนเข้มแข็งทุกท่าน ฉบับนี้นาย “สุชน” จะพาไป “เมืองย่าโม” หรือโคราช
กันนะครับ ผมมีโอกาสไปร่วมสังเกตการณ์การประชุมพัฒนาสังคมสุขภาวะจังหวัดนครราชสีมา ปี 2563 ภายใต้หัวข้อ “รวมพลังคนโคราช ก้าวสู่ชีวิตวิถีใหม่ สู้ภัยโควิด เพื่อพัฒนาสุขภาวะด้วยจิตวิญญาณ อย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมาก็ด้วย นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสังคมสุขภาวะ ชวนผมไปร่วมงานนี้ล่ะครับ

 
   โห...เป็นงานที่คึกคักจริงๆครับ เครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมามากันพร้อมเพรียง และมีผู้ใหญ่หลายคนเข้าร่วมทั้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ศ. (พิเศษ) นพ. สำเริง แหยงกระโทก ซึ่งท่านเป็นประธานคณะกรรมการบริหารสมัชชาสุขภาพจังหวัดด้วย มี ผู้ว่าราชการจังหวัด(นายวิเชียร จันทรโณทัย) รวมถึง รองผู้ว่าราชการจังหวัด นพ.สสจ. รอง ผอ.สปสช. เขต 9 รองเจ้าคณะจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ พระสงฆ์ ภาคเอกชน และผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ หรือ พชอ. ทั้ง 32 อำเภอ เข้าร่วม รวมๆก็กว่า 270 คน และเขาจัดการประชุมตามมาตรฐานยุคนิวนอมอลเต็มที่ครับ งานนี้ไม่ต้องกลัวโรคระบาด
 
   นพ.สำเริง หรือ คุณหมอแหยง เล่าให้ฟังว่า สมัชชาสุขภาพจังหวัดนั้นเป็นพื้นที่ที่รวมผู้คนมากมาย หลายระดับ หลากความรู้สึก ซึ่งเป็นผู้แทนระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือพื้นที่ชุมชน มาจากหน่วยงานรัฐ หน่วยงานวิชาการทั้งในและนอกภาคสาธารณสุข ภาคประชาสังคม ธุรกิจเอกชน สื่อมวลชนและอื่นๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและกำหนดอนาคตจังหวัดนครราชสีมาร่วมกัน โดยเวทีวันนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลักด้านสุขภาพ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) ให้ร่วมกันขับเคลื่อนระบบสุขภาพในจังหวัดนครราชสีมาให้เกิดเป็นรูปธรรม
 
   คุณสมชัย เล่าต่อเนื่องถึงความตั้งใจที่วางไว้ว่า “ที่ผ่านมาสมัชชาสุขภาพจังหวัดมีการจัดทำข้อเสนอ
เชิงนโยบายหลายประเด็น แต่หลายประเด็นก็พบว่าไม่ถูกนำไปสู่การปฏิบัติ ครั้งนี้ผมจะรวบรวมข้อเสนอและกระตุ้นให้เกิดการทำงานอย่างจริงและต่อเนื่อง ผ่านกลไกของ พชอ.”


 
   รศ.ดร.ภก. พุฒิพงศ์ สัตยวงศ์ทิพย์ ประธานคณะทำงานวิชาการพัฒนานโยบายสาธารณะ ลงสนามนำการจัดกระบวนการระดมสมองด้วยตนเองเลย โดยได้เสนอถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนบุคคล ครอบครัว สังคม และส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ จากนั้นจึงเปิดช่วงเวลายาวๆให้ผู้เข้าร่วมเวทีได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประเด็นและแนวทางสำคัญที่ควรหยิบยกมาหารือเพื่อการฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่หลังวิกฤติโควิด-19 ที่ประชุมได้ร่วมกันพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม และมีฉันทมติร่วมกัน ใน 3 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 การพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ประเด็นที่ 2 การพัฒนาสุขภาวะของพระสงฆ์ และประเด็นที่ 3 การจัดบริการสาธารณสุขตามชีวิตวิถีใหม่
 
   นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวต่อที่ประชุมหลังรับมอบข้อเสนอทั้ง 3 ประเด็นจากคุณสมชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาสังคมสุขภาวะว่า การจัดเวทีครั้งนี้เป็นนิมิตรหมายอันดีที่ทุกคนได้มีส่วนร่วมกำหนดสุขภาวะคนโคราช ข้อเสนอดังกล่าวจะส่งมอบให้ พชอ. ทั้ง 32 อำเภอ นำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชนหลังวิกฤติโควิด-19ต่อไป ด้วยความหวังว่าในอนาคต จังหวัดนคราชสีมาจะเป็นศูนย์กลางด้านบริการสุขภาพที่เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
 
   ก่อนปิดเวที ผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวนำคำประกาศเจตนารมณ์และผู้เข้าร่วมในที่ประชุมกล่าวพร้อมกันเสียงดังกึกก้องว่า “เราทุกคนในที่ประชุมแห่งนี้ ขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า ชาวโคราช จะรวมพลัง ก้าวสู่ชีวิตปกติใหม่ สู้ภัยโควิด เพื่อพัฒนาสุขภาวะของชาวจังหวัดนคราชสีมา ด้วยจิตวิญญาณอันกล้าหาญ และเสียสละ อย่างท่านท้าวสุรนารี อย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน”
 
   งานครั้งนี้ถือว่าเป็นการรวมพลครั้งใหญ่ของชาวโคราช เพื่อพัฒนาสุขภาวะร่วมกัน ซึ่งตอนนี้มีเสียงกระซิบแจ้งมาว่าเริ่มมีการขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ บ้างแล้วครับ อย่างไร “สุชน” จะมาเล่าสู่กันฟังต่อไปนะครับ